MQDC เปิดตัวไฮไลท์ทำเลเด่นที่สุดใจกลาง CBD
“วิสซ์ดอม อโศก สุขุมวิท” สุดยอดทำเลหายากกลางอโศก
ในคอนเซ็ปต์ “Own the rare” วิวสวนป่าเบญจกิติ
(31 ตุลาคม 2561; กรุงเทพฯ) MQDC แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียมและโครงการมิกซ์ยูสคุณภาพ เจ้าของและผู้พัฒนาโครงการที่พักอาศัยแบรนด์ Whizdom (วิสซ์ดอม) เปิดตัวไฮไลท์ทำเลเด่นที่สุดใจกลาง CBD Whizdom Asoke-Sukhumvit (วิสซ์ดอม อโศก สุขุมวิท) สุดยอดทำเลหายากกลางอโศก ในคอนเซ็ปต์ “Own the rare” วิวสวนป่าเบญจกิติ สวนสาธารณะขนาด 450 ไร่ เดินทางสะดวกสบายใกล้ BTS, MRT อโศกอินเตอร์เชนจ์สเตชั่น และทางด่วนรายรอบ พร้อมส่งมอบที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ด้วยการสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตที่เหนือกว่าด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี การก่อสร้าง และสิ่งแวดล้อมที่เป็นมิตรแก่ผู้พักอาศัย
อัษฎา แก้วเขียว ประธานผู้อำนวยการ-วิสซ์ดอม บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ จำกัด (MQDC) หนึ่งในผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า เป็นอีกปีหนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างภูมิศาสตร์เมือง จากการเริ่มสร้างรถไฟฟ้าสายใหม่ และบางสายที่จะเริ่มให้บริการ ส่งผลโดยตรงกับราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกทำเล รวมถึงราคาที่อยู่อาศัยก็ปรับตัวสูงขึ้นด้วยเช่นกัน คอนโดมิเนียมยังเป็นสินค้าหลักในปัจจุบันและอนาคต แต่ที่ดินใจกลางเมืองมีจำกัด และที่ดินบริเวณรอบนอกเข้าสู่ตลาดที่ดินมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการรายหลายหันมาเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและโครงการ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลง
“โครงการของ Whizdom (วิสซ์ดอม) ออกแบบเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมและแรงบันดาลใจของสังคมแห่งการอยู่อาศัย เพื่อขับเคลื่อนรูปแบบชีวิตของคนรุ่นต่อไป ผสมผสานสังคมแห่งการเรียนรู้และแบ่งปัน เพื่อให้ค้นพบศักยภาพของตนเอง ซึ่งโครงการ Whizdom Asoke-Sukhumvit (วิสซ์ดอม อโศก สุขุมวิท) เป็นโครงการที่ถูกตั้งเป็น Flagship ล่าสุดของแบรนด์ Whizdom (วิสซ์ดอม) ในคอนเซ็ปต์ “Own the rare” ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะ Rare Location ทำเล ‘อโศก” ที่ถือว่าเป็น CBD ที่แท้จริงของกรุงเทพฯ พร้อมด้วยการคมนาคมและสิ่งอำนวยความสะดวกสบายรอบๆ โครงการ ร้านอาหาร ห้างสรรสินค้าชื่อดังต่างๆ Rare Innovation เพื่อให้เข้าใจถึงสิ่งที่ต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง การพัฒนาโครงการ Whizdom Asoke-Sukhumvit (วิสซ์ดอม อโศก สุขุมวิท) ถูกออกแบบมาโดยให้แนวคิดเริ่มต้นด้วยการทำ Co-creation คือการให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมีส่วนร่วมในการเสนอแนวคิด ความต้องการ รวมถึง pain points ที่เจอและอยากเปลี่ยนแปลง รวมถึงการทำ Innovation และมาตรฐานของ MQDC มาใช้อย่างครบถ้วน ทำให้ Whizdom Asoke-Sukhumvit (วิสซ์ดอม อโศก สุขุมวิท) มีครบทุกองค์ประกอบ เหมาะกับ Rare lifestyle ของการอยู่อาศัยสำหรับคนรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์”
โดยแรงบันดาลใจของโครงการ ได้แนวคิดจากมหานครใหญ่ทั่วโลกจะมีสวนป่าขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ซึ่งเป็นที่ๆ ผู้คนต่างพากันมาใช้เป็นพื้นที่ออกกำลังกาย พบปะเพื่อนฝูง เป็นที่สังสรรค์ และพาครอบครัวมาผ่อนคลาย เช่นเดียวกับกรุงเทพมหานครที่มีสวนป่าใจกลางเมืองอย่าง “สวนป่าเบญจกิติ” ที่อยู่ใจกลางอโศก พื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 450 ไร่ เป็นศูนย์รวมของพันธุ์ไม้นานาชนิดอยู่ในสวนป่าที่ใหญ่ที่สุด กลายเป็นที่มาของ “Queen of Urban Nature” แนวคิดการพัฒนาโครงการที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ เพราะโดยปกตินั้นการที่ผู้คนในมหานครจะได้ใกล้ชิดกับธรรมชาตินั้นเป็นไปได้ยาก หรืออาจจะต้องเลือกที่จะไม่อยู่กลางเมือง เพื่อจะได้สัมผัสและใกล้ชิดกับพื้นที่ สีเขียวขนาดใหญ่ แต่โครงการ Whizdom Asoke-Sukhumvit (วิสซ์ดอม อโศก สุขุมวิท) เป็นโครงการที่ตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัวที่จะได้อาศัยในเมือง พร้อมสัมผัสพื้นที่สีเขียวผืนใหญ่ได้อย่างเต็มที่และสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มปอด
จุดเด่นของโครงการ Whizdom Asoke-Sukhumvit (วิสซ์ดอม อโศก สุขุมวิท) ยังให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตการอยู่อาศัยอย่างแท้จริง ตามแนวคิด “FOR ALL WELL-BEING” ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการพัฒนาโครงการของ Whizdom (วิสซ์ดอม) ทุกรายละเอียด
และด้วยงานวิจัย ที่ตั้งใจคิดค้นและพัฒนามาเพื่อคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อมโดยรอบโครงการ แบ่งออกเป็น 3 ด้าน ได้แก่
ENERGY & ECOLOGY การคำนึงเรื่องการใช้พลังงานและระบบนิเวศน์รอบโครงการ โดยนำเกณฑ์การออกแบบจากสถาบันอาคารเขียวไทยที่ได้รับความน่าเชื่อถือมาอ้างอิงเพื่อคุณภาพของโครงการตามมาตรฐานการประเมินความยั่งยืนทางพลังงานและสิ่งแวดล้อมไทย (TREES-NC) HEALTH & WELLNESS การออกแบบทุกรายละเอียดให้อยู่สบายและสุขภาพดี ด้วยการเลือกวัสดุต่างๆ ที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ ลดการเกิดอุบัติเหตุ การออกแบบระบบปรับอากาศที่ลดการสะสมของฝุ่นและการเกิดเชื้อราเพื่อคุณภาพอากาศภายในห้องที่ดี รวมถึงการออกแบบระบบท่อออกหลัง เพื่อลดปัญหาน้ำรั่วหรือท่ออุดตัน สามารถบำรุงรักษาได้สะดวก โดยไม่รบกวนผู้พักอาศัยห้องอื่นๆ
SENSES & HAPPINESS การออกแบบพื้นที่ให้เหมาะสมกับการใช้งาน ถูกสุขลักษณะเพื่อการรับรู้ที่ดี (Psychology and Human Perception) ของผู้อยู่อาศัย รวมไปถึงการออกแบบสำหรับทุกคน (Universal Design) เอื้อต่อการใช้งานของคนทุกวัย ในทุกพื้นที่ส่วนกลาง
นอกจากนี้สิ่งที่ทางโครงการเพิ่มเติม คือ เรื่องนวัตกรรมที่สร้างสรรค์ขึ้นมา สร้างความสะดวกสบาย ด้วย Smart unit โดยการใส่ระบบ Home intelligent system ที่นอกจากจะตอบโจทย์เรื่องไลฟ์สไตล์และความปลอดภัยแล้วความพิเศษเฉพาะ คือ เป็นระบบที่ออกแบบมาตามแนวคิด Well-Being ตอบโจทย์เรื่อง “สุขภาพที่ดีของผู้อยู่อาศัย เพราะคุณภาพอากาศที่ดีส่งผลต่อคุณภาพการอยู่อาศัยที่ดี” โดยมี Indoor Air Quality Sensor ที่คอยตรวจเช็คปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ในห้องพักให้อยู่ในระดับที่ไม่มากเกินไป ทำงานร่วมกับระบบระบายอากาศเพื่อถ่ายเทก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกไป และนำอากาศบริสุทธิ์เข้ามา โดยผ่านเครื่อง ERV ที่ให้ยิ่งกว่าอากาศบริสุทธิ์ เพราะปรับสภาวะอากาศให้อยู่ในความชื้นและอุณหภูมิที่เหมาะสม
Smart building ที่ออกแบบอาคารโดยคำนึงถึงเรื่องทิศทางของลม และแสงเพื่อลดความร้อนและมลภาวะจากภายนอกสู่ตัวอาคาร นอกจากนี้ยังมีการออกแบบเพิ่มเติมพื้นที่สีเขียวในรูปแบบของ Pocket garden ที่ช่วยเพิ่มก๊าซออกซิเจนและความสวยงามให้กับตัวอาคาร อีกทั้งยังมีการใช้ระบบ Water cooling ที่ใช้กับโรงแรม 5 ดาว หรือโรงพยาบาลที่เน้นเรื่องสุขภาพของผู้อยู่อาศัยเป็นหลักสำคัญ นอกจากนี้ทางโครงการยังมี Access control & analysis คือการจดจำใบหน้าขอผู้พักอาศัย เพื่อความปลอดภัยและสะดวกสบายในการเข้าและออกอาคาร พร้อม Security Robot ที่จะช่วยตรวจตราวัตถุต้องสงสัยรวมถึงเมื่อมีเหตุฉุกเฉินในที่จอดรถ Security Robot จะมีส่วนเชื่อมต่อกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพื่อให้เกิดการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ในด้านของระบบจอดรถ ทางโครงการมีระบบจอดรถแบบอัตโนมัติและแบบวนจอด รวมทั้งสิ้น 85% เพื่อประหยัดเวลาในการหาที่จอด
“เป้าหมายสำคัญในการพัฒนาโครงการ คือการมอบที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า และยกระดับคุณภาพคอนโดมิเนียมในประเทศโดยใส่เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทาง Whizdom (วิสซ์ดอม) มี และได้ศึกษาร่วมกับทาง RISC (Research & Innovation for Sustainability Center) ทั้งนี้ โครงการจะแล้วเสร็จภายในปี ธันวาคม 2021 โดยตั้งยอดขายไว้ 80% ถึงสิ้นปีนี้ โดยจะมีงานเปิดขาย Pre-sales ในวันที่ 3-4 พฤศจิกายน 2561 คาดว่าจะมีลูกค้าสนใจเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมียอดผู้ลงทะเบียนเข้าชมโครงการเป็นจำนวนมาก” อัษฎา กล่าวทิ้งท้าย
MQDC launches the latest highlight at the heart of the CBD
“Whizdom Asoke-Sukhumvit” with a rare location at the center of Asoke
and a stunning view over Benjakitti Park under the concept “Own the rare”
(31 October 2018, Bangkok) MQDC – Magnolia Quality Development Corporation Limited, a leading developer of real-estate projects including detached houses, condominiums, and quality mixed-use developments, and the owner and developer of residential projects under Whizdom, launches the latest highlight at the heart of the CBD, Whizdom Asoke-Sukhumvit, with a rare location at the center of Asoke district under the concept “Own the rare” complete with a spectacular view over the 450-rai Benjakitti Park, plus the convenience of easy access to BTS and MRT Asoke Interchange Station as well as several highways, ready to deliver the best residences today with enhanced well-being through a resident-friendly environment, innovations, technology, and high-quality construction.
Mr Assada Kaeokhiao, President of Whizdom by Magnolia Quality Development Corporation Limited (MQDC), one of Thailand’s leading real-estate developers, shared that this year the company anticipates changes in the city’s geography with the start of construction on new train lines and the introduction of services on others, directly driving continued increases in the value of land and residential units. Condominiums are set to remain the main product, although the limited availability of land in the CBD and suburbs has led developers to focus on added value in each project to meet changing needs.
“Whizdom is designed as an innovative and inspiring movement in modern residential living to promote further discovery of individual potential through a sustainable learning and knowledge-sharing society. Whizdom Asoke-Sukhumvit is the new Whizdom flagship under the concept “Own the rare” that truly answers to the modern lifestyle with its Rare Location “Asoke” – the true CBD of Bangkok – complete with transport connections and amenities including popular restaurants and leading department stores, and Rare Innovation with true understanding of clients’ needs, resulting from Whizdom Asoke-Sukhumvit being designed through original ideas from co-creation, in which the target group helps define ideas and needs as well as uncover pain points and introduce changes. Together with MQDC’s high standards and innovations in all aspects, Whizdom Asoke-Sukhumvit is fully equipped and perfect for the Rare lifestyle of modern residents with vision.”
The inspiration behind the project stems from metropolises around the world and their lush green central parks where people meet, hang out, relax, and keep fit. Bangkok has its own large urban oasis: Benjakitti Park at the heart of Asoke, with over 450 rai of land and a host of plant species as the city’s largest forest park, earning the title “Queen of Urban Nature”. The idea is to develop a project focused on the importance of verdant expanses. The dilemma of either living in the city and missing out on nature or living away from the city to be near green spaces is resolved by Whizdom Asoke-Sukhumvit – the project that perfectly suits modern urbanites, providing full access to forest and fresh air.
The highlight of Whizdom Asoke-Sukhumvit is its focus on well-being under the principle “FOR ALL WELL-BEING”, with every detail designed to provide the best quality of well-being and to enhance the neighborhood. “FOR ALL WELL-BEING” has 3 central elements:
ENERGY & ECOLOGY – Energy and ecology in the project’s surroundings have been planned using the trusted criteria of the Thai Green Building Institute Thai’s Rating of Energy and Environmental Sustainability (TREES-NC).
HEALTH & WELLNESS – Comfort and wellness are the focus in every detail starting from the selection of materials that help prevent accidents and are healthy for residents, the air-conditioning system that helps reduce dust accumulation and prevent mold to improve air quality in every room, and the plumbing system that helps prevent leaks and blocked drains while enabling easy access for maintenance without disturbing other residents.
SENSES & HAPPINESS – The development concentrates on appropriate and healthy design ideally suited to each area’s functions according to the psychology and perception of all residents, complete with Universal Design of shared facilities to suit users of all ages.
Innovations enable the ultimate convenience of Smart units operated by Home Intelligent Systems that not only deliver in terms of lifestyle and security but also provide well-being. As the quality of the air we breathe greatly influences our well-being, Indoor Air Quality sensors monitor the carbon dioxide level in each room and work with the ventilation system to refill the room with fresh air through energy recovery ventilation (ERV) devices that not only help keep air healthy but also ensure suitable humidity and temperature for healthy living.
The building is aligned with wind and sun to reduce heat and provide fresh air. In addition, an internal green area in the form of a pocket garden will improve air quality and provide a charming element, while the water-cooling system delivers the standards recognized by well-being-conscious accommodation such as hospitals and 5-star hotels. In terms of security, the project is fitted with access control and analysis employing face recognition for convenient and secure access to the building. Security robots will help detect suspicious objects within the parking area, linked with security officers for immediate intervention. The smart parking system is fitted with 85% automatic parking and rotation to save residents’ precious time.
“The major aim in developing the project is to deliver the best residence to our customers and take Thailand’s condominium quality to another level with technologies and innovations that Whizdom has developed through researches with RISC (Research & Innovation for Sustainability Center). The project will be completed in December 2021 and we expect to achieve 80% of sales by the end of this year, as evidenced by the number of prospective customers registering for our pre-sales event on 3–4 November 2018,” added Mr Assada Kaeokhiao.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น